มัดรวมวิธีตั้งค่ามือถือให้ใช้งานง่ายถูกใจผู้สูงวัย
แม้ว่าสมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายมากๆ แล้ว แต่สำหรับญาติผู้ใหญ่ ผู้สูงวัยในครอบครัวก็อาจจะยังมีปัญหาในการใช้งานได้เหมือนกัน เหตุผลก็เนื่องมาจากสายตาและหูที่อาจจะใช้งานได้ไม่ดีเหมือนเดิม รวมไปถึงหน้าจอที่มีแอปต่างๆ มากมายเต็มไปหมด เวลาจะหาอะไรก็หาไม่ค่อยเจอ ต้องเหนื่อยคอยถามลูกหลานอยู่บ่อยๆ บทความนี้แนะนำวิธีตั้งค่ามือถือให้เหมาะสมสำหรับผู้สูงวัยในครอบครัว รับรองว่าตั้งค่าให้แล้ว ใช้งานสะดวกและง่ายขึ้น ลูกหลานหมดห่วงหมดกังวลแน่นอน
การตั้งค่ามือถือสำหรับผู้สูงวัย
1. ปรับขนาดตัวอักษรให้ใหญ่และชัดขึ้น
ปัญหาแรกที่ทุกคนมักจะเจอเมื่อมีอายุมากขึ้นคือ การอ่านหนังสือและข้อความต่างๆ บนหน้าจอมือถือที่มีตัวอักษรขนาดเล็ก ทำได้ยากมากขึ้น เพ่งก็แล้ว หรี่ตาก็แล้ว บางทีขนาดใส่แว่นอยู่ด้วยก็ยังอ่านตัวอักษรขนาดเล็กบนหน้าจอแทบไม่ออก ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องตั้งค่ามือถือให้ผู้สูงวัยคือการปรับขนาดตัวอักษรให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อที่จะได้อ่านข้อความต่างๆ ได้ง่ายที่สุด
วิธีปรับขนาดตัวอักษรใน iPhone: ให้เข้าไปที่ Settings > Display & Brightness > Text Size แล้วลากสไลเดอร์ปรับขนาดฟอนต์ได้ตามความต้องการ และเลือกเปิด “Bold Text” เพื่อให้ตัวอักษรชัดเจนมากยิ่งขึ้น
วิธีปรับขนาดตัวอักษรใน Android: ให้เข้าไปที่ Settings > Display > Font Size แล้วปรับขนาดฟอนต์ตามต้องการ และเลือก “High Contrast Text” เพื่อให้ตัวอักษรที่แสดงคมชัดมากขึ้น
2. ปรับขนาดแป้นพิมพ์ หน้าจอ และตัวอักษรแบบซูม
สำหรับคนที่ใช้ iPhone จะมีฟีเจอร์พิเศษอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยทำให้แป้นพิมพ์มีขนาดใหญ่ขึ้นและพิมพ์ง่ายขึ้นมากๆ นั่นก็คือฟีเจอร์ Displayed Zoom ฟีเจอร์นี้นอกจากจะทำให้แป้นพิมพ์ใหญ่ขึ้นแล้ว ยังช่วยปรับหน้าจอทั้งหมดให้ใหญ่ขึ้น ใช้งานง่ายขึ้นด้วยไม่ว่าเจะเป็นไอคอนต่างๆ ใน Home Screen รวมไปถึงตัวอักษรในแอปต่างๆ ด้วย ฟีเจอร์นี้รับรองว่าถูกใจผู้สูงวัยแน่นอน คอนเฟิร์ม
วิธีปรับขนาดแป้นพิมพ์ใน iPhone: ให้เข้าไปที่ Settings > Display & Brightness > Displayed Zoom เลือก Larger Text แล้วกดเสร็จสิ้น
3. ปรับเพิ่มเสียงเรียกเข้าให้ดังขึ้น
นอกจากปัญหาเรื่องสายตาแล้ว ผู้สูงวัยบางคนก็อาจจะมีปัญหาเรื่องของการได้ยิน บางครั้งจึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่คนในครอบครัวโทรหา ซึ่งทำให้ลูกหลานเกิดความกังวล ดังนั้นจึงควรปรับเพิ่มเสียงเรียกเข้าให้ดังขึ้นในระดับที่ผู้สูงอายุได้ยินชัดเจน
วิธีปรับเสียงเรียกเข้าใน iPhone: กดเข้าไปที่ Settings>Sounds & Haptics ปรับความดังของเสียง Ringtone ตามเหมาะสม ถ้าไม่ต้องการให้ปรับความดังของเสียงเรียกเข้าที่ปุ่มปรับเสียงก็ให้ปิดการใช้งาน Change with Buttons ด้วย เพราะหากเปิดอยู่ เวลาที่กดหรี่เสียงที่ปุ่มจะทำให้เสียง Ringtone เบาลงด้วย
4. เพิ่มรายชื่อที่ต้องติดต่อบ่อยให้กดโทรออกง่าย
การตั้งค่าพื้นฐานอีกอย่างที่ทำได้ง่ายและทำให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้นคือ การกำหนดหมายเลขที่ต้องโทรออกอยู่บ่อยๆ รวมถึงหมายเลขสำคัญไว้ในหมายเลขโปรด เช่น เบอร์โทรคุณหมอประจำตัว หรือคนที่ดูแลเรื่องประกัน ให้สามารถค้นหาและโทรออกได้ง่ายขึ้น เวลาเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วนจะได้สามารถติดต่อคนสำคัญได้
วิธีเพิ่มรายชื่อไว้ในรายการโปรดบน iPhone: เปิดแอปโทรศัพท์ เลือกแถบ Favorites กดเครื่องหมายบวก แล้วเลือกรายชื่อติดต่อที่ต้องการเพิ่มเพื่อแสดงในรายการโปรดได้เลย
5. ปรับหน้า Home Screen ให้เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
ผู้สูงวัยส่วนมากแล้วจะใช้แอปที่จำเป็นเพียงไม่กี่แอปเท่านั้น ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำคือการไม่ลงแอปมากเกินความจำเป็น ลบแอปที่ไม่ได้ใช้งานแล้วออกจากเครื่อง หลังจากเคลียร์แอปภายในเครื่องเรียบร้อยแล้วก็ควรทำการจัดกลุ่มแอปที่เหมือนกันไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันเพื่อง่ายต่อการใช้งาน และทำให้หน้าจอเป็นระเบียบเรียบร้อยดูง่ายมากที่สุด ซึ่งทั้ง iPhone และ Andriod ก็สามารถที่จะสร้างโฟลเดอร์ได้ง่ายเพียงกดแอปค้างไว้ แล้วลากแอปไปวางไว้รวมกับแอปอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกัน
สำหรับผู้ที่สูงวัยมากๆ หรือผู้ที่ไม่สามารถเรียนรู้การใช้งานสมาร์ทโฟนได้ iPhone มีฟีเจอร์ Assistive Access ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ โดยฟีเจอร์นี้จะทำการปรับหน้าจอเป็นแบบที่ใช้งานและทำความเข้าใจได้ง่ายที่สุด สามารถเลือกแอปที่จำเป็นเท่านั้นมาแสดงแบบไอคอนขนาดใหญ่ได้ โดยสามารถทำตามจากวิดีโอ วิธีการตั้งค่า Assistive Access on iPhone
6. ตั้งค่าหมายเลขโทรออกฉุกเฉิน SOS
ฟีเจอร์สุดท้ายที่แนะนำและจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะช่วยปกป้องดูแลผู้สูงอายุในครอบครัว คือการตั้งค่าหมายเลขโทรออกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นโดย iPhone จะโทรออกหาหมายเลขที่ตั้งไว้ด้วยการกดที่ปุ่มด้านข้างและปุ่มปรับเสียง(ปุ่มใดก็ได้) พร้อมกันค้างไว้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเข้าดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุได้อย่างทันท่วงที โดยผู้ใช้ iPhone สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings> Emergency SOS> Set up Emergency Contacts in health แล้วทำตามขั้นตอนโดยระบบจะให้กรอกข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และเบอร์โทรที่ต้องการให้โทรออก เช่น 191 และหมายเลขของญาติและเพื่อนสนิท เป็นต้น ส่วนใครที่ใช้ Andriod สามารถเข้าไปตรวจสอบเวอร์ชั่นที่รองรับ และวิธีการตั้งค่าเปิดปิด SOS ฉุกเฉิน ได้จากลิงค์นี้
