จ่ายบิลไปแล้ว แต่ยังมียอดค้างในระบบ — เกิดจากอะไร?

บางครั้งลูกค้าอาจสับสนว่า “ยอดที่จ่ายไปเข้าแล้วจริงไหม?” หรือ “ยอดที่จ่ายไปหักกับทุกบิลหรือยัง?” ซึ่งจริง ๆ แล้วการอัปเดตยอดชำระในระบบและในเอกสารบิลอาจไม่พร้อมกัน โดยขึ้นอยู่กับ:

• เวลาที่คุณชำระเงิน
• เวลาที่ระบบตัดรอบบัญชีและออกเอกสาร
• ช่องทางที่ใช้ในการชำระ
• ประเภทบิลที่เป็นยอดค้าง หรือยอดค่าบริการปัจจุบัน

ระบบอาจแสดงยอดเก่าในบิลเอกสารได้ชั่วคราว แต่ยอดจริงหลังชำระจะแสดงบน App แบบ Real-time

คำถาม:
ดิฉัน/ผมได้ชำระค่าบริการไปแล้ว แต่ทำไมบิลล่าสุดยังแสดงว่ายังค้างชำระ?
และทำไมเหมือนว่ามียอดค้าง 2 บิล?

คำอธิบายแบบเข้าใจง่าย (เรื่อง “บิลสวนทาง”)

สาเหตุที่พบบ่อยคือช่วงเวลาในการออกบิลกับช่วงเวลาที่ลูกค้าชำระเงินไม่ตรงกัน
เรียกว่า “บิลสวนทาง”
ง่าย ๆ คือ:
ระบบได้จัดทำบิลรอบใหม่แล้ว
แล้วลูกค้ามาชำระยอดของรอบที่ผ่านมา หลังจากนั้น
ดังนั้นบิลใหม่จึง “ยังแสดงยอดเก่าอยู่”แม้ว่าลูกค้าจะจ่ายเงินไปแล้วก็ตาม
ยอดที่ลูกค้าชำระแล้ว จะถูกนำไปปรับลดในรอบบิลถัดไป

ทำไมเหมือนมียอดค้าง 2 รอบบิล?

ในบิลใหม่ จะเห็นยอดสองส่วนรวมกัน:
ยอดค้างชำระจากบิลก่อนหน้า (ที่คุณจ่ายไปแล้ว แต่ระบบยังไม่ได้อัปเดตในเอกสาร)
ยอดค่าบริการรอบบิลปัจจุบัน
ภาพที่เห็นจะเหมือนว่า “มียอดค้าง 2 บิล”แต่จริง ๆ แล้ว ยอดที่ต้องชำระจริง คือยอดที่หักเงินที่คุณจ่ายไปแล้ว

วิธีตรวจสอบยอดที่ถูกต้อง (Self-Service)

1. เช็กยอดใน True App — นี่คือยอดที่ต้องชำระจริง (Net amount)
   • ยอดที่แสดงในแอปเป็นยอด Real-time
   • ระบบหักยอดที่คุณจ่ายแล้วโดยอัตโนมัติ
2. เช็กประวัติการชำระเงิน
   ดูใบเสร็จ / หลักฐานการจ่าย
   ตรวจสอบวันที่จ่าย
   เทียบกับวันที่ออกบิล
   ถ้าชำระ หลัง วันที่ออกบิล → จะเกิด “บิลสวนทาง”

วิธีอ่านบิลอย่างถูกต้อง

เมื่อคุณเปิดบิล ให้ดู 3 จุดนี้:
Bill Date (วันที่ออกบิล) — ระบบสร้างบิลวันไหน
Latest Payment (ยอดที่ชำระล่าสุด) — ถ้าชำระหลัง Bill Date อาจยังไม่ถูกหัก
ยอดรวมทั้งหมด vs ยอดสุทธิ
Gross Amount = ยอดรวมก่อนหักเงิน
Net Amount = ยอดต้องชำระจริง

คำถามที่พบบ่อย