เปิดให้บริการจริงแบบไร้คนขับครั้งแรกในไทยแล้ว..."The First 5G Unmanned Shuttle Cart รถรับ-ส่ง ไร้คนขับ" ควบคุมผ่านทรู 5G

News : 3 มี.ค. 2021

เปิดให้บริการจริงแบบไร้คนขับครั้งแรกในไทยแล้ว..."The First 5G Unmanned Shuttle Cart รถรับ-ส่ง ไร้คนขับ" ควบคุมผ่านทรู 5G โดยความร่วมมือกับ สวทช และ เจ็นเซิฟ ณ โลตัส (Lotus’s) สาขาเลียบด่วนรามอินทรา

เปิดให้บริการจริงแล้ว... ทรู 5G เครือข่ายอัจฉริยะ รายแรก รายเดียว ครบกว่า เร็วแรงยิ่งกว่า ครอบคลุมกว่า ทุกการใช้งาน  ร่วมกับ สวทช. และ บริษัท เจ็นเซิฟ จำกัด นำ "The First 5G Unmanned Shuttle Cart รถรับ-ส่ง ไร้คนขับ" ขนาด 6 ที่นั่ง ควบคุมผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G มาให้บริการผู้โดยสารจริง ณ ศูนย์การค้าโลตัส (Lotus’s) สาขาเลียบด่วนรามอินทรา บริเวณลานจอดรถกับอาคาร ระหว่างวันที่ 15 – 21กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา โดย นายวิฑูรย์ เจียมศิริกาญจน์ (ที่ 2 จากซ้าย) รองผู้อำนวยการและคณะทำงาน 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกับ ดร.เอกรัตน์ ไวยนิตย์ (ขวาสุด) ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเทคโนโลยีระบบรางและการขนส่งสมัยใหม่ และ ดร. จาตุวัฒน์ ราชเรืองระบิน หัวหน้าทีมวิจัยเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขนส่ง (ซ้ายสุด) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) กรมวิทยาศาสตร์บริการ หน่วยงานในกำกับของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วย น.ส.วรีมน ปุรผาติ (ที่ 2 จากขวา) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ็นเซิฟ จำกัด บริษัทผู้ออกแบบและผลิตหุ่นยนต์สัญชาติไทย ร่วมสัมผัสประสบการณ์ความ

สะดวกสบายจากการใช้บริการรถไร้คนขับที่โลตัส ซึ่งรถจะวิ่งและจอดตามเส้นทางที่ได้กำหนดไว้ แบบอัตโนมัติ ผ่านสัญญาณทรู 5G เชื่อมต่อไปยังระบบควบคุมที่อยู่บนคลาวด์ แบบเรียลไทม์ รองรับการสั่งงานจากแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ หรือคอมมานด์ เซ็นเตอร์ ที่สามารถตรวจติดตามการเคลื่อนที่ของรถได้ ณ เวลาจริงตลอดเวลาจากที่ไหนก็ได้ผ่านเครือข่าย ทรู 5G เพื่อเป็นการยกระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้กับผู้โดยสารรถอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังเพิ่มความปลอดภัยและตรวจจับวัตถุสิ่งกีดขวาง โดยเชื่อมต่อระบบขับเคลื่อนกับกล้องหน้ารถ และ LiDAR sensor* ที่มีความแม่นยำสูงในการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมอีกด้วย และนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ Smart Transportation หรือ Smart city ได้ในอนาคต อย่างแท้จริง

*LiDAR sensor “Light Detection and Ranging” เป็นเทคโนโลยีการวัดระยะแบบแม่นยำสูง โดยการคำนวณระยะทางจากระยะเวลาในการเดินทางของแสงเลเซอร์ ที่เดินทางจากเซ็นเซอร์ไปยังวัตถุเป้าหมาย และเดินทางกลับมายังเซ็นเซอร์อีกครั้ง เมื่อควบคุมผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G จะทำให้การประมวลผลเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ตรวจจับวัตถุสิ่งกีดขวางแบบเรียลไทม์ เพิ่มความปลอดภัยสูงสุด

RELATED ARTICLES

เตรียมมันส์ขั้นสุดกับ “True 5G Cloud Gaming” เร็วกว่า แรงกว่า สะใจเกมเมอร์
สะเทือนวงการเกม สร้างปรากฏการณ์ใหม่สะใจเกมเมอร์ไทย...ทรู 5G ย้ำภาพผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะ ผนึกพันธมิตรผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ระดับโลก Bifrost Cloud จากประเทศจีน เปิดตัว “True 5G Cloud Gaming” มิติใหม่ของการเล่นเกมพีซี และคอนโซล บนสมาร์ทโฟน ผ่านการสตรีมมิ่งจากเทคโนโลยีคลาวด์ เร็วกว่า สนุกกว่า มันส์กว่า และเหนือชั้นกว่า ด้วยทัพเกมดังระดับ AAA กว่า 300 เกม อาทิ Overwatch, FallGuy, PUBG, League of Legend และ Tekken 7 ที่เปิดให้คอเกมเล่นเป็นครั้งแรก ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G บนแอปพลิเคชัน Netboom ลับมือให้พร้อม 7 มิถุนายนนี้ เจอกัน มันส์ชัวร์ !!! นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "ด้วยศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัลได้อย่างตรงใจ โดยเฉพาะวงการเกม ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในเทรนด์ทั่วโลก ผนวกกับนวัตกรรมเทคโนโลยี ที่ช่วยต่อยอดให้พัฒนาไปสู่รูปแบบ คลาวด์เกมมิ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่เกมเมอร์ ล่าสุด ทรู 5G มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ Bifrost Cloud ผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศจีน ให้ความไว้วางใจ ร่วมเป็นพันธมิตรกับทรู ด้วยเล็งเห็นและเชื่อมั่นในศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ทั้งในเรื่องสัญญาณที่มีความครอบคลุม กว่า 77 จังหวัด ครบทุกย่านความถี่ เร็วกว่า แรงกว่า จึงได้ร่วมเปิดบริการ “True 5G Cloud Gaming” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เอาใจเหล่าเกมเมอร์ ให้เล่นเกมพีซีและเกมคอนโซลบนสมาร์ทโฟน จากเทคโนโลยีคลาวด์ ผ่านแอปพลิเคชัน Netboom ซึ่งนำ 300 เกมดังระดับ AAA อาทิ Overwatch, FallGuy, PUBG, League of Legend และ Tekken 7 มาเติมเต็มความสนุกสุดมัน เล่นได้ลื่นไหล่ไม่มีสะดุดผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ให้คอเกม เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเกมลงเครื่อง ลดปัญหาการสิ้นเปลืองดาต้า และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีกด้วย” มร.นิ ไฮเช้ง Founder & CEO of Bifrost Cloud Pte.Ltd. กล่าวว่า "Bifrost Cloud ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มทรู ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการเปิดให้บริการคลาวด์เกมแก่ผู้เล่นในประเทศไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จแอปพลิเคชัน Netboom ที่ขณะนี้ มีผู้ใช้บริการในเมืองไทยมากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า "คลาวด์เกม" จะมาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเกม โดยช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการ สามารถเล่นเกมที่มีคุณภาพสูงได้ผ่านระบบคลาวด์ เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ซึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการเล่นคลาวด์เกมให้ไหลลื่น ไม่สะดุด ต้องอาศัยความเร็วและแรงของอินเทอร์เน็ต ไม่ให้เกิดอาการหน่วงในขณะเล่นเกม ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการสร้างประสบการณ์การเล่นคลาวด์เกมที่น่าประทับใจ โดยเชื่อมั่นว่า ทรู 5G จะมาช่วยเติมเต็มการใช้งานแอป Netboom ของ Bifrost Could ทำให้คอเกมชาวไทย ได้เล่นเกมอย่างสนุกสนาน เพลิดเพลิน เต็มประสิทธิภาพทัดเทียมเกมเมอร์ทั่วโลกได้อย่างแน่นอน" ทั้งนี้ ทรู 5G ได้จัดเตรียมแพ็กเกจสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับลูกค้า True 5G เร็วๆ นี้ และเตรียมสนุกพร้อมกัน โดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Netboom ได้ที่ App Store และ Play Store ตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2564 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://truemoveh.truecorp.co.th/