แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่...ทรูมูฟ เอช ครองแชมป์ 6 ปีซ้อน “เครือข่ายยอดเยี่ยม/ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2564” การันตีจากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลก nPerf

News : 14 ม.ค. 2022

แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่...ทรูมูฟ เอช ครองแชมป์ 6 ปีซ้อน “เครือข่ายยอดเยี่ยม/ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2564” การันตีจากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลก nPerf ดีที่สุดทั้งความสำเร็จในการเชื่อมต่อ ความหน่วง การเปิดเว็บ และการรับชมวิดีโอ ตอกย้ำความทุ่มเท เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่ไปด้วยกัน

กรุงเทพฯ 14 มกราคม 2565 – โครงข่ายคุณภาพที่ดีที่สุดในไทย...ทรูมูฟ เอช ผงาดครองแชมป์เครือข่ายยอดเยี่ยม 6 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2564 จากสถาบันทดสอบคุณภาพระดับโลกอย่าง nPerf ที่ได้ประกาศผลการทดสอบสำรวจความเร็วโมบายล์อินเทอร์เน็ตประจำปี 2564 รวบรวมผลสำรวจจากผู้ใช้งานแอป nPerf ทั้งหมดในช่วงระหว่างวันที่ 1 ม.ค. ถึง 31 ธ.ค. 64 จำนวน 3,500,000 ครั้ง โดยทรูมูฟ เอช ยังครองแชมป์รางวัล “เครือข่ายยอดเยี่ยม/ที่ดีที่สุดในประเทศไทย ปี 2564ด้วยคะแนนรวมสูงสุด 74,438 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปี 63 ถึง 5.1% และมีคะแนนนำใน 4 หมวดการทดสอบ ทั้งความสำเร็จในการเชื่อมต่อดีที่สุด (Best Success Rate) 91%  ค่าความหน่วงต่ำดีที่สุด (Best Latency)  29.8 ms คุณภาพในการเปิดเว็บที่ดีที่สุด (Best Browsing Experience) 56.5 % และคุณภาพการรับชมวิดีโอที่ดีที่สุด (Best Streaming Experience) 75.4% ตอกย้ำความทุ่มเทที่จะพัฒนาคุณภาพโครงข่ายที่ดีที่สุดเพื่อคนไทย ทำให้ทรูมูฟ เอชเป็นผู้นำเครือข่ายที่ดีกว่า เร็วแรงกว่า รายเดียวที่ครบสุดทุกย่านความถี่ เพื่อก้าวสู่ยุคใหม่ไปด้วยกัน

 

นายจิระชัย คุณากร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการโครงข่าย บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "ตลอดปี 2564 คนไทยส่วนใหญ่ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home การเรียนออนไลน์ ตลอดจนกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ยิ่งทำให้ทรูมูฟ เอช ทุ่มเทพัฒนาคุณภาพเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เพื่อให้คนไทยได้ใช้งานอย่างเต็มศักยภาพ ตลอดจนการพัฒนาการให้บริการเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ที่ทำให้ทรูมูฟ เอชเป็นผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะที่ดีกว่า เร็วแรงกว่า และเป็นรายแรก รายเดียว ที่มีคลื่นความถี่ครบสุดถึง 7 ย่านความถี่ ครอบคลุมถึง 77 จังหวัดทั่วไทย จึงส่งผลให้ทรูมูฟ เอช สามารถรักษาแชมป์เครือข่ายยอดเยี่ยม/ที่ดีที่สุดในประเทศไทยต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2564 โดยผลการสำรวจได้รวบรวมจากผู้ใช้ งานแอปพลิเคชัน nPerf ทั้งหมดในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 3,500,000 ครั้ง ซึ่งทรูมูฟ เอช ได้คะแนนรวมสูงสุด 74,438 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ถึง 5.1% และมีคะแนนนำใน 4 หมวดการทดสอบที่สำคัญๆ ได้แก่ 1. ความสำเร็จในการเชื่อมต่อดีที่สุด (Best Success Rate) 91 % 2. ค่าความหน่วงต่ำหรือ Latency ดีที่สุด (Best Latency) 29.8 ms  3. คุณภาพในการเปิดเว็บที่ดีที่สุด (Best Browsing Experience) ด้วยค่าเฉลี่ยสูงสุดถึง 56.5 % โดยพิจารณาจากคุณภาพการเปิด 5 เว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวไทยใช้บ่อยที่สุด 4. คุณภาพการรับชมวิดีโอที่ดีที่สุด (Best Streaming Experience) ด้วยค่าเฉลี่ยสูงสุดถึง 75.4% โดยพิจารณาจากคุณภาพการรับชมวิดีโอบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง  ยูทูป ซึ่งรางวัลเครือข่ายยอดเยี่ยม/ดีที่สุดในไทยถึง 6 ปีซ้อน ถือเป็นกำลังใจชั้นดีให้กับทีมงานเน็ตเวิร์คทุกคน โดยเราจะยังคงมุ่งมั่น ทุ่มเทดูแลและพัฒนาคุณภาพของเครือข่ายอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรักษาความเป็นผู้นำเครือข่ายที่ดีที่สุดในไทย เร็วแรงกว่า รายเดียวที่ครบสุดทุกย่านความถี่ และเพื่อให้ลูกค้าชาวไทยได้รับประสบการณ์การสื่อสารที่ดีที่สุดตลอดไป”


ทั้งนี้ nPerf คือ เครื่องมือเพื่อใช้ทดสอบความเร็ว (Speed) และคุณภาพ (Quality of Service) ของอินเทอร์เน็ต ที่สามารถทดสอบได้ทั้งอินเทอร์เน็ตบ้าน (Fixed Broadband Internet) และโมบายอินเทอร์เน็ต (Mobile Broadband Internet) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยบริษัทเอกชนในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งบริการมาตั้งแต่ปี 2003 ก่อนจะพัฒนามาเป็นโมบายล์แอปพลิเคชัน ทั้ง iOS  Android และ Windows ถือเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันที่ใช้มากที่สุดในตลาด และได้รับความไว้ใจในหมู่ผู้ให้บริการโทรศัพท์ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยสามารถให้ผลทดสอบอย่างละเอียด ทั้งในแง่ความเร็วในการดาวน์โหลด (Download Speed) อัปโหลด (Upload Speed)ค่าความหน่วงเวลา(Latency) และทดสอบเชิงคุณภาพของบริการ (Quality of Service) เช่นคุณภาพในการเปิดเว็บ (Browsing Test) คุณภาพการสตรีมมิ่งวิดีโอ (Streaming Test) ซึ่ง nPerf ถือเป็นเครื่องมือที่ก้าวหน้าที่สุดตัวหนึ่งของโลกในปัจจุบัน โดยผลการทดสอบซึ่งจะมีค่าทางเทคนิคและตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ (Geo-Location) ของผู้ทดสอบ จะถูกรวบรวมไว้บน Cloud นอกจากนี้ nPerf มีรายงานคุณภาพของบริการอินเทอร์เน็ตของแต่ละ ISP ให้ผู้ใช้สามารถเรียกดู เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการให้บริการแบ่งตามเครือข่าย หรือภูมิภาคได้อย่างเปิดเผย ซึ่งรูปแบบการให้บริการทดสอบคุณภาพอินเทอร์เน็ตในลักษณะนี้นั้น นอกจากจะใช้เป็นเครื่องมือในการทดสอบของผู้ใช้เองแล้วนั้น ยังเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้ให้บริการแข่งขันกันสร้างบริการที่มีคุณภาพสูงขึ้นไปอีกด้วย

RELATED ARTICLES

เตรียมมันส์ขั้นสุดกับ “True 5G Cloud Gaming” เร็วกว่า แรงกว่า สะใจเกมเมอร์
สะเทือนวงการเกม สร้างปรากฏการณ์ใหม่สะใจเกมเมอร์ไทย...ทรู 5G ย้ำภาพผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะ ผนึกพันธมิตรผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ระดับโลก Bifrost Cloud จากประเทศจีน เปิดตัว “True 5G Cloud Gaming” มิติใหม่ของการเล่นเกมพีซี และคอนโซล บนสมาร์ทโฟน ผ่านการสตรีมมิ่งจากเทคโนโลยีคลาวด์ เร็วกว่า สนุกกว่า มันส์กว่า และเหนือชั้นกว่า ด้วยทัพเกมดังระดับ AAA กว่า 300 เกม อาทิ Overwatch, FallGuy, PUBG, League of Legend และ Tekken 7 ที่เปิดให้คอเกมเล่นเป็นครั้งแรก ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G บนแอปพลิเคชัน Netboom ลับมือให้พร้อม 7 มิถุนายนนี้ เจอกัน มันส์ชัวร์ !!! นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "ด้วยศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัลได้อย่างตรงใจ โดยเฉพาะวงการเกม ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในเทรนด์ทั่วโลก ผนวกกับนวัตกรรมเทคโนโลยี ที่ช่วยต่อยอดให้พัฒนาไปสู่รูปแบบ คลาวด์เกมมิ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่เกมเมอร์ ล่าสุด ทรู 5G มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ Bifrost Cloud ผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศจีน ให้ความไว้วางใจ ร่วมเป็นพันธมิตรกับทรู ด้วยเล็งเห็นและเชื่อมั่นในศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ทั้งในเรื่องสัญญาณที่มีความครอบคลุม กว่า 77 จังหวัด ครบทุกย่านความถี่ เร็วกว่า แรงกว่า จึงได้ร่วมเปิดบริการ “True 5G Cloud Gaming” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เอาใจเหล่าเกมเมอร์ ให้เล่นเกมพีซีและเกมคอนโซลบนสมาร์ทโฟน จากเทคโนโลยีคลาวด์ ผ่านแอปพลิเคชัน Netboom ซึ่งนำ 300 เกมดังระดับ AAA อาทิ Overwatch, FallGuy, PUBG, League of Legend และ Tekken 7 มาเติมเต็มความสนุกสุดมัน เล่นได้ลื่นไหล่ไม่มีสะดุดผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ให้คอเกม เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเกมลงเครื่อง ลดปัญหาการสิ้นเปลืองดาต้า และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีกด้วย” มร.นิ ไฮเช้ง Founder & CEO of Bifrost Cloud Pte.Ltd. กล่าวว่า "Bifrost Cloud ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มทรู ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการเปิดให้บริการคลาวด์เกมแก่ผู้เล่นในประเทศไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จแอปพลิเคชัน Netboom ที่ขณะนี้ มีผู้ใช้บริการในเมืองไทยมากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า "คลาวด์เกม" จะมาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเกม โดยช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการ สามารถเล่นเกมที่มีคุณภาพสูงได้ผ่านระบบคลาวด์ เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ซึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการเล่นคลาวด์เกมให้ไหลลื่น ไม่สะดุด ต้องอาศัยความเร็วและแรงของอินเทอร์เน็ต ไม่ให้เกิดอาการหน่วงในขณะเล่นเกม ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการสร้างประสบการณ์การเล่นคลาวด์เกมที่น่าประทับใจ โดยเชื่อมั่นว่า ทรู 5G จะมาช่วยเติมเต็มการใช้งานแอป Netboom ของ Bifrost Could ทำให้คอเกมชาวไทย ได้เล่นเกมอย่างสนุกสนาน เพลิดเพลิน เต็มประสิทธิภาพทัดเทียมเกมเมอร์ทั่วโลกได้อย่างแน่นอน" ทั้งนี้ ทรู 5G ได้จัดเตรียมแพ็กเกจสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับลูกค้า True 5G เร็วๆ นี้ และเตรียมสนุกพร้อมกัน โดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Netboom ได้ที่ App Store และ Play Store ตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2564 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://truemoveh.truecorp.co.th/