พร้อมแล้ว! ต้นแบบ 5G Smart Factory อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทรู 5G ผนึก มิตซูบิชิ อีเล็คทริค และ เลิศวิลัย ดึงอัจฉริยภาพ 5G พลิกโฉมสายการผลิตอัจฉริยะ ยกระดับอุตสาหกรรม 4.0

News : 29 ก.ค. 2021

พร้อมแล้ว! ต้นแบบ 5G Smart Factory อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทรู 5G ผนึก มิตซูบิชิ อีเล็คทริค และ เลิศวิลัย ดึงอัจฉริยภาพ 5G พลิกโฉมสายการผลิตอัจฉริยะ ยกระดับอุตสาหกรรม 4.0

กรุงเทพฯ 29 กรกฎาคม 2564 -  ทรู 5G รุกเสริมแกร่งภาคอุตสาหกรรมไทย นำอัจฉริยภาพเครือข่าย 5G ร่วมสร้างต้นแบบ 5G Smart Factory ผนึกความร่วมมือกับ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ผู้นำด้านเทคโนโลยี การผลิตในภาคอุตสาหกรรม  และเลิศวิลัย ผู้นำด้านการพัฒนาและออกแบบระบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ บูรณาการระบบการผลิตและเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาโซลูชันสายการผลิตอัตโนมัติ ผสานฟังก์ชั่นสุดล้ำของหุ่นยนต์เคลื่อนที่ในสายการผลิต (Autonomous Mobile Robotic หรือ AMR) พร้อมส่งมอบให้อุตสาหกรรมต่างๆ นำไปใช้จริงได้แล้ววันนี้ ทั้งยังเปิดให้ทดสอบและสัมผัสความล้ำสมัยของเทคโนโลยีการผลิต โรงงานอัจฉริยะไร้มนุษย์ เพื่อก้าวเข้าสู่ยุค Digital Transformation ในพื้นที่ EEC Automation Park บางแสน จ.ชลบุรี ที่มีทั้งระบบเชื่อมต่อเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆภายในโรงงานแบบอัตโนมัติ  รับส่งข้อมูลเรียลไทม์ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ที่ติดตั้งแบบ Private Network ให้ความเร็ว ความเสถียร และปลอดภัยสูง จึงสามารถควบคุมและตรวจสอบทั้งระบบการผลิตได้ทันทีตลอดเวลา และยังสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโรงงาน ลดต้นทุนธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต เสริมความได้เปรียบในการแข่งขันและสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล  สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยทรานส์ฟอร์มสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างเต็มรูปแบบ

 

นายวิเชียร งามสุขเกษมศรี   กรรมการผู้จัดการ  บริษัท มิตซูบิชิ   อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด  กล่าวว่า  มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชั่น เป็นผู้ผลิต จำหน่าย และให้คำปรึกษา ฝึกอบรม เกี่ยวกับระบบออโตเมชันแบบครบวงจร ปัจจุบันมีพันธมิตรที่ช่วยพัฒนาโซลูชันแล้วกว่า 900 บริษัท และมีการนำไปใช้งานจริงแล้วมากกว่า 10,000 โซลูชันทั่วโลก  สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆมากมายแต่ยังใช้คนในกระบวนการผลิตอยู่เป็นจำนวนมากนั้น  มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ได้นำ “e-F@ctory” เข้ามาให้บริการนานกว่า 5 ปี ด้วยความมุ่ง

หมายที่จะขยายความรู้ด้านออโตเมชันให้บุคลากรในประเทศไทย (Technology Transfer) และผลักดันให้มีการใช้ระบบออโตเมชันช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ จึงร่วมมือกับ EEC ริเริ่ม EEC Automation Park พื้นที่พัฒนานวัตกรรมและบุคลากรด้านออโตเมชัน ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม สอดคล้องกับนโยบายของ EEC ที่ต้องการพัฒนาประเทศโดยการสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ที่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมทั้งนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีออโตเมชัน ช่วยพัฒนาบุคลากรไทย ไม่ว่าจะเป็นการ Up-Skill หรือ Re-Skill  ตลอดจนสร้างเครือข่ายการศึกษา โดยร่วมทำงานกับ EEC-HDC นำเทคโนโลยีและโซลูชันที่ร่วมมือกับพันธมิตรมาช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีและสามารถนำไปประยุกต์ใช้จริง เพื่อเพิ่มศักยภาพ ลดต้นทุนการผลิต ตลอดจนพัฒนาบุคลากรและภาคอุตสาหกรรมการผลิตไปพร้อมๆกัน  ซึ่งเทคโนโลยี 5G เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความสำคัญที่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมไทยในยุค 4.0 มิตซูบิชิ อีเล็คทริค จึงได้ร่วมกับทรู 5G และ เลิศวิลัย พัฒนาโซลูชันสายการผลิตอัตโนมัติ ที่มีการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้งานจริง โดยจัดแสดงที่  EEC Automation Park จำลองกระบวนการผลิตแบบไร้มนุษย์ 100% เพื่อให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้และศึกษาเป็นต้นแบบในการพัฒนาการผลิตต่อไป


นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์  หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น  กล่าวว่า กลุ่มทรู มุ่งพัฒนาเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ที่เร็วแรงกว่า ครบกว่าด้วย 7 ย่านความถี่ มากสุดในไทย และครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าสร้างระบบนิเวศ 5G (5G Ecosystem) ด้วยการผสานความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ผลักดันการนำ 5G ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทยและประเทศไทย ซึ่งการใช้เทคโนโลยี 5G  ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆเป็นอีกหนึ่งมิติที่ทรู 5G ให้ความสำคัญ เพื่อร่วมยกระดับอุตสาหกรรม 4.0 สอดคล้องกับแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐ  ทรู 5G จึงร่วมมือกับ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ที่มีความเชี่ยวชาญในระบบโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) และ เลิศวิลัย ผู้นำด้านการพัฒนาและออกแบบระบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ร่วมสร้างต้นแบบ 5G Smart Factory อัตโนมัติเต็มรูปแบบ  ก้าวข้ามข้อจำกัดของเทคโนโลยีเดิม ล้ำไปอีกขั้นด้วยการนำศักยภาพเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ภายในพื้นที่ EEC เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่ติดตั้งแบบ Private Network มีความเร็ว ความเสถียรและความปลอดภัยของข้อมูลสูง ร่วมทดสอบและพัฒนาโซลูชันสายการผลิตอัตโนมัติ  โดยเชื่อมต่อ สั่งงาน และควบคุมเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งหุ่นยนต์เคลื่อนที่ในสายการผลิต (AMR) ภายในโรงงานแบบอัตโนมัติอย่างไร้รอยต่อผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G  เพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-ส่งข้อมูลแบบไร้สายได้แบบเรียลไทม์ ทั้งยังสามารถรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ได้จำนวนมาก พร้อมเทคโนโลยี AR เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการตรวจสอบระบบโรงงานตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิตได้ทุกที่ทุกเวลาบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีจัดเก็บ วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูล ที่สามารถนำไปใช้ในการบริหารจัดการโรงงานและช่วยลดต้นทุนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นการบูรณาการสายการผลิตและเทคโนโลยีสื่อสารดิจิทัลล้ำสมัยอย่างลงตัว พลิกโฉมสายการผลิตอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ และสามารถนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างแท้จริงแล้ววันนี้

ดร. ประพิณ อภินรเศรษฐ์  กรรมการบริหาร บริษัท เลิศวิลัย แอนด์ ซันส์ จำกัด  กล่าวว่า  จากความสำเร็จของการนำ 5G ไปใช้ทำงานร่วมกับหุ่นยนต์เคลื่อนที่ในสายการผลิต AMR (Autonomous Mobile Robot)  ทำให้ AMR เสมือนมีสมองเชื่อมต่อกับระบบควบคุม สามารถทำงานได้อย่างเสถียรต่อเนื่อง เคลื่อนที่ หลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างคล่องตัว  ซึ่งเห็นถึงความพร้อมของการนำ 5G ไปใช้งานได้จริงกับวงการอุตสาหกรรม เพราะ 5G เป็น การเชื่อมต่อไร้สาย (Wireless connectivity) ที่มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสมกับการใช้งาน Use case ที่ต้องการการเคลื่อนที่ เช่น กรณีที่ต้องมีการลากสาย เพื่อทำการเชื่อมต่อ  ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง  หรือพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้เทคโนโลยีแบบมีสาย เป็นพื้นที่ Outdoor  พื้นที่ที่ต้องการหลีกเลี่ยงความร้อน หรือป้องกันการระเบิด อีกทั้งยังตัดปัญหาเรื่องสัญญาณการรบกวนได้ด้วย  เราพร้อมที่จะพัฒนาและต่อยอดจากโรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Factory ไปสู่การทดลองใช้งานจริงของ Smart City ในพื้นที่ EEC เพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประเทศไทยต่อไป

RELATED ARTICLES

เตรียมมันส์ขั้นสุดกับ “True 5G Cloud Gaming” เร็วกว่า แรงกว่า สะใจเกมเมอร์
สะเทือนวงการเกม สร้างปรากฏการณ์ใหม่สะใจเกมเมอร์ไทย...ทรู 5G ย้ำภาพผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะ ผนึกพันธมิตรผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ระดับโลก Bifrost Cloud จากประเทศจีน เปิดตัว “True 5G Cloud Gaming” มิติใหม่ของการเล่นเกมพีซี และคอนโซล บนสมาร์ทโฟน ผ่านการสตรีมมิ่งจากเทคโนโลยีคลาวด์ เร็วกว่า สนุกกว่า มันส์กว่า และเหนือชั้นกว่า ด้วยทัพเกมดังระดับ AAA กว่า 300 เกม อาทิ Overwatch, FallGuy, PUBG, League of Legend และ Tekken 7 ที่เปิดให้คอเกมเล่นเป็นครั้งแรก ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G บนแอปพลิเคชัน Netboom ลับมือให้พร้อม 7 มิถุนายนนี้ เจอกัน มันส์ชัวร์ !!! นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "ด้วยศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัลได้อย่างตรงใจ โดยเฉพาะวงการเกม ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในเทรนด์ทั่วโลก ผนวกกับนวัตกรรมเทคโนโลยี ที่ช่วยต่อยอดให้พัฒนาไปสู่รูปแบบ คลาวด์เกมมิ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่เกมเมอร์ ล่าสุด ทรู 5G มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ Bifrost Cloud ผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศจีน ให้ความไว้วางใจ ร่วมเป็นพันธมิตรกับทรู ด้วยเล็งเห็นและเชื่อมั่นในศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ทั้งในเรื่องสัญญาณที่มีความครอบคลุม กว่า 77 จังหวัด ครบทุกย่านความถี่ เร็วกว่า แรงกว่า จึงได้ร่วมเปิดบริการ “True 5G Cloud Gaming” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เอาใจเหล่าเกมเมอร์ ให้เล่นเกมพีซีและเกมคอนโซลบนสมาร์ทโฟน จากเทคโนโลยีคลาวด์ ผ่านแอปพลิเคชัน Netboom ซึ่งนำ 300 เกมดังระดับ AAA อาทิ Overwatch, FallGuy, PUBG, League of Legend และ Tekken 7 มาเติมเต็มความสนุกสุดมัน เล่นได้ลื่นไหล่ไม่มีสะดุดผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ให้คอเกม เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเกมลงเครื่อง ลดปัญหาการสิ้นเปลืองดาต้า และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีกด้วย” มร.นิ ไฮเช้ง Founder & CEO of Bifrost Cloud Pte.Ltd. กล่าวว่า "Bifrost Cloud ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มทรู ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการเปิดให้บริการคลาวด์เกมแก่ผู้เล่นในประเทศไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จแอปพลิเคชัน Netboom ที่ขณะนี้ มีผู้ใช้บริการในเมืองไทยมากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า "คลาวด์เกม" จะมาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเกม โดยช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการ สามารถเล่นเกมที่มีคุณภาพสูงได้ผ่านระบบคลาวด์ เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ซึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการเล่นคลาวด์เกมให้ไหลลื่น ไม่สะดุด ต้องอาศัยความเร็วและแรงของอินเทอร์เน็ต ไม่ให้เกิดอาการหน่วงในขณะเล่นเกม ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการสร้างประสบการณ์การเล่นคลาวด์เกมที่น่าประทับใจ โดยเชื่อมั่นว่า ทรู 5G จะมาช่วยเติมเต็มการใช้งานแอป Netboom ของ Bifrost Could ทำให้คอเกมชาวไทย ได้เล่นเกมอย่างสนุกสนาน เพลิดเพลิน เต็มประสิทธิภาพทัดเทียมเกมเมอร์ทั่วโลกได้อย่างแน่นอน" ทั้งนี้ ทรู 5G ได้จัดเตรียมแพ็กเกจสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับลูกค้า True 5G เร็วๆ นี้ และเตรียมสนุกพร้อมกัน โดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Netboom ได้ที่ App Store และ Play Store ตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2564 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://truemoveh.truecorp.co.th/