สร้างคนเก่งด้าน AI ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 วิทยาลัยเทคนิคระยอง จับมือ ทรู 5G มหาวิทยาลัยบูรพา และ มิตซูบิชิ อีเล็กทริค ยกระดับอาชีวศึกษา ในโครงการพัฒนาศูนย์ปัญญาประดิษฐ์เพื่ออุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี 5G

News : 30 ม.ค. 2023

สร้างคนเก่งด้าน AI ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 วิทยาลัยเทคนิคระยอง จับมือ ทรู 5G มหาวิทยาลัยบูรพา และ มิตซูบิชิ อีเล็กทริค ยกระดับอาชีวศึกษา ในโครงการพัฒนาศูนย์ปัญญาประดิษฐ์เพื่ออุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี 5G

 . ระยอง 19 มกราคม 2566 – ดร.อภิชาต ทองอยู่ (กลาง) ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC HDC) เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือ “โครงการพัฒนาศูนย์ปัญญาประดิษฐ์เพื่ออุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี 5G” ระหว่าง วิทยาลัยเทคนิคระยอง โดย  นายชาคริต รุ่งรัตน์ (ที่ 2 จากซ้าย) รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากร และ กลุ่มทรู โดย นายพิรุณ  ไพรีพ่ายฤทธิ์ (ที่ 2 จากขวา) หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมด้วย มหาวิทยาลัยบูรพา โดย ดร.ไพบูลย์ ลิ้มปิติพานิชย์ (ซ้าย)  ผู้อำนวยการ อีอีซี ออโตเมชัน พาร์ค และ มิตซูบิชิ อีเล็คทริค โดย นายปฤณวัชร ปานสิงห์ (ขวา) เจ้าหน้าที่การตลาดอาวุโส บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชัน (ประเทศไทย) จำกัด  ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G เพื่อยกระดับด้านการศึกษาและพัฒนาทักษะด้าน AI ของนักศึกษาและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม สร้างคนที่มีความรู้ความสามารถที่จะเป็นพลังสำคัญร่วมขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ และสนับสนุนการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์และสามารถนำไปใช้งานได้จริงในภาคธุรกิจยุคอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพภาคอุตสาหกรรมไทย รองรับการเติบโตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (EEC) ที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยพิธีลงนามฯ จัดขึ้น  ณ วิทยาลัยเทคนิคระยอง เมื่อเร็วๆนี้

ว่าที่เรือตรีชูชีพ อรุณเหลือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคระยอง กล่าวว่า วิทยาลัยเทคนิคระยอง มุ่งเน้นการสอนด้านอาชีวศึกษาที่ก้าวทันเทคโนโลยีและนวัตกรรมในภาคอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมเพิ่มขีดความสามารถและทักษะวิชาชีพของนักศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล เราเชื่อว่า นวัตกรรมและดิจิทัล คือความรู้ที่เป็นทั้งอาวุธและเครื่องมือในการดำรงชีวิต สามารถต่อยอดพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของของประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปได้ สังคมต้องการแรงงานที่มี Hard Skills และ Soft Skills  การได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้ความร่วมมือกับ ทรู 5G รวมทั้งศูนย์อีอีซี ออโตเมชัน พาร์ค มหาวิทยาลัยบูรพา และบริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชัน (ประเทศไทย) จำกัด จะช่วยยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษาของไทยไปสู่ความเป็นเลิศในอนาคต โดยวิทยาลัยเทคนิคระยองมีความพร้อมรองรับทั้งในด้านสถานที่และวัสดุอุปกรณ์ และจะจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอน รวมทั้งกิจกรรมเสริมทักษะของนักศึกษาและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของการเรียนสายอาชีพให้ดียิ่งขึ้นด้วย


นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G  บมจ ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัยที่สามารถผสานการทำงานกับอัจฉริยภาพของเทคโนโลยี 5G พัฒนาเป็นนวัตกรรมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของภาคอุตสาหกรรมต่างๆในหลากหลายมิติ ความร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคระยองและเหล่าพันธมิตรองค์กรชั้นนำในโครงการนี้ จึงนับเป็นโอกาสสำคัญที่กลุ่มทรูจะได้มีส่วนร่วมในการสร้างนักศึกษา บุคลากร และผู้มีทักษะดิจิทัลด้าน AI ที่จะร่วมกันทรานสฟอร์มภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ดิจิทัล โดย กลุ่มทรู พร้อมนำศักยภาพเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ที่มีความเสถียรและความปลอดภัยของข้อมูลสูง สามารถรับ-ส่งข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงอุปกรณ์และเครื่องมือด้านเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ 5G Private Network, Network Slicing และ MEC ตลอดจนทีมงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และให้คำปรึกษา เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะของนักศึกษาและบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม มั่นใจว่า การร่วมมือกันระหว่าง สถาบันการศึกษา ที่มีความพร้อมด้านองค์ความรู้ และ ภาคเอกชน ที่มีความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี ภายใต้การสนับสนุนของภาครัฐในครั้งนี้ จะส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรม AI ที่ตอบโจทย์ตรงความต้องการและสามารถใช้งานได้จริงในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมการผลิต ยกระดับวงการอุตสาหกรรมของไทยให้พร้อมรองรับการเติบโตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญตามยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0” ของภาครัฐ ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศ สอดคล้องกับความตั้งใจของกลุ่มทรูในการสร้างระบบนิเวศ 5G (5G Ecosystem) ด้วยการผสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันการนำ 5G ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทยและประเทศไทย


ดร. ไพบูลย์ ลิ้มปิติพานิชย์ ผู้อำนวยการ อีอีซี ออโตเมชัน พาร์ค คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า อีอีซี ออโตเมชัน พาร์ค เป็นศูนย์การเรียนรู้และพัฒนากำลังคนด้านออโตเมชันและหุ่นยนต์ เพื่อเสริมสร้างทักษะ ยกระดับเทคโนโลยีการผลิตในประเทศไทยก้าวสู่ อุตสาหกรรม 4.0 การทำงานของ อีอีซี ออโต เมชัน พาร์ค ไม่ได้เป็นเพียงการทำงานแบบ Standalone แต่เป็นการดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ซึ่งความร่วมมือทั้ง 4 ฝ่ายที่เกิดขึ้น ทางอีอีซี ออโตเมชัน พาร์ค ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนทั้งในด้านบุคลากร อุปกรณ์หรือเครื่องมือ รวมถึงการจัดกิจกรรมการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และ 5G เพื่อนำไปสู่เป้าหมายเดียวกันในด้านการพัฒนาทักษะให้กับนักเรียน นักศึกษาระดับอาชีวศึกษาเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรม


นายวิเชียร งามสุขเกษมศรี กรรมการบริหาร บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค แฟคทอรี่ ออโตเมชัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  มิตซูบิชิ อีเล็คทริค หนึ่งในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีและผลิตอุปกรณ์ด้านระบบอัตโนมัติการผลิต(Factory Automation) ที่ครบวงจรแนวหน้าของโลก โดยบริษัทได้นำความรู้และประสบการณ์ร่วมปรับปรุงด้านระบบการผลิตกับทางผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกมากว่า 100 ปี เพื่อนำมาเชื่อมต่อกันเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโรงงานอุตสาหกรรม  โดยการนำแนวคิดของระบบ  e-F@ctory(Smart Factory concepts)  ซึ่งเป็นการผนวกเทคโนโลยี Factory Automation กับ IT ผสมผสานและเชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ  ตลอดเวลากว่า 20 ปี  ได้พัฒนาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยต่างๆ พร้อมขยายความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 บริษัททั่วโลก ทั้งยังร่วมกับพันธมิตรพัฒนาระบบด้านการผลิตให้กับภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกมาแล้วกว่า 10,000 โรงงาน   ซึ่งบริษัทมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนการผลักดันอุตสหกรรมในประเทศไทยให้พัฒนาความสามารถด้านการแข่งขันได้ในตลาดโลกและเติบโตได้อย่างยั่งยืนรวมถึงการพัฒนาศักยภาพครูอาจารย์ นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถตอบโจทย์สถานการณ์การขาดแคลนแรงงานด้านนี้ของภาคอุตสาหกรรมและถือยังว่าเป็นการช่วยส่งเสริมศักยภาพให้เด็กไทยสามารถแข่งขันทักษะด้านระบบอัตโนมัติได้ในระดับเวทีสากลอีกด้วย   โดยทางบริษัทยินดีให้การสนับสนุนด้านอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องต่างๆและรวมถึงการส่งทีมงานวิศวกรผู้ชำนาญการเข้าร่วมกิจกรรมการฝึกอบรมตามแผนงานความร่วมมือนี้ด้วย

RELATED ARTICLES

เตรียมมันส์ขั้นสุดกับ “True 5G Cloud Gaming” เร็วกว่า แรงกว่า สะใจเกมเมอร์
สะเทือนวงการเกม สร้างปรากฏการณ์ใหม่สะใจเกมเมอร์ไทย...ทรู 5G ย้ำภาพผู้นำเครือข่ายอัจฉริยะ ผนึกพันธมิตรผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ระดับโลก Bifrost Cloud จากประเทศจีน เปิดตัว “True 5G Cloud Gaming” มิติใหม่ของการเล่นเกมพีซี และคอนโซล บนสมาร์ทโฟน ผ่านการสตรีมมิ่งจากเทคโนโลยีคลาวด์ เร็วกว่า สนุกกว่า มันส์กว่า และเหนือชั้นกว่า ด้วยทัพเกมดังระดับ AAA กว่า 300 เกม อาทิ Overwatch, FallGuy, PUBG, League of Legend และ Tekken 7 ที่เปิดให้คอเกมเล่นเป็นครั้งแรก ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G บนแอปพลิเคชัน Netboom ลับมือให้พร้อม 7 มิถุนายนนี้ เจอกัน มันส์ชัวร์ !!! นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "ด้วยศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัลได้อย่างตรงใจ โดยเฉพาะวงการเกม ที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในเทรนด์ทั่วโลก ผนวกกับนวัตกรรมเทคโนโลยี ที่ช่วยต่อยอดให้พัฒนาไปสู่รูปแบบ คลาวด์เกมมิ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่เกมเมอร์ ล่าสุด ทรู 5G มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ Bifrost Cloud ผู้ให้บริการเทคโนโลยีคลาวด์ชั้นนำระดับโลกจากประเทศจีน ให้ความไว้วางใจ ร่วมเป็นพันธมิตรกับทรู ด้วยเล็งเห็นและเชื่อมั่นในศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะ ทรู 5G ทั้งในเรื่องสัญญาณที่มีความครอบคลุม กว่า 77 จังหวัด ครบทุกย่านความถี่ เร็วกว่า แรงกว่า จึงได้ร่วมเปิดบริการ “True 5G Cloud Gaming” เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เอาใจเหล่าเกมเมอร์ ให้เล่นเกมพีซีและเกมคอนโซลบนสมาร์ทโฟน จากเทคโนโลยีคลาวด์ ผ่านแอปพลิเคชัน Netboom ซึ่งนำ 300 เกมดังระดับ AAA อาทิ Overwatch, FallGuy, PUBG, League of Legend และ Tekken 7 มาเติมเต็มความสนุกสุดมัน เล่นได้ลื่นไหล่ไม่มีสะดุดผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G ให้คอเกม เล่นได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเกมลงเครื่อง ลดปัญหาการสิ้นเปลืองดาต้า และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอีกด้วย” มร.นิ ไฮเช้ง Founder & CEO of Bifrost Cloud Pte.Ltd. กล่าวว่า "Bifrost Cloud ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มทรู ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการเปิดให้บริการคลาวด์เกมแก่ผู้เล่นในประเทศไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จแอปพลิเคชัน Netboom ที่ขณะนี้ มีผู้ใช้บริการในเมืองไทยมากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า "คลาวด์เกม" จะมาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเกม โดยช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ใช้บริการ สามารถเล่นเกมที่มีคุณภาพสูงได้ผ่านระบบคลาวด์ เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ซึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับการเล่นคลาวด์เกมให้ไหลลื่น ไม่สะดุด ต้องอาศัยความเร็วและแรงของอินเทอร์เน็ต ไม่ให้เกิดอาการหน่วงในขณะเล่นเกม ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี 5G จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการสร้างประสบการณ์การเล่นคลาวด์เกมที่น่าประทับใจ โดยเชื่อมั่นว่า ทรู 5G จะมาช่วยเติมเต็มการใช้งานแอป Netboom ของ Bifrost Could ทำให้คอเกมชาวไทย ได้เล่นเกมอย่างสนุกสนาน เพลิดเพลิน เต็มประสิทธิภาพทัดเทียมเกมเมอร์ทั่วโลกได้อย่างแน่นอน" ทั้งนี้ ทรู 5G ได้จัดเตรียมแพ็กเกจสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สำหรับลูกค้า True 5G เร็วๆ นี้ และเตรียมสนุกพร้อมกัน โดยดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Netboom ได้ที่ App Store และ Play Store ตั้งแต่ 7 มิถุนายน 2564 และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://truemoveh.truecorp.co.th/