บริษัทที่ปรึกษา McKinsey & Company เผยผลสำรวจด้านนวัตกรรมว่า 85 % ของผู้บริหารระดับสูงกล่าวว่าความกลัวเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการสร้างสรรค์นวัตกรรมขององค์กรอยู่เสมอหรือบ่อยครั้ง เนื่องจากพนักงานมักกลัวความล้มเหลว และการวิพากษ์วิจารณ์ อย่างไรก็ดี หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้พนักงานเอาชนะความกลัวเหล่านั้น คือ การให้ความเชื่อมั่นและให้คุณค่าต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม
ด้วยความเชื่อมั่นที่ว่า “ทุกคนสามารถเป็นนวัตกรได้” ของทีม True Innovation Center คือหนึ่งแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิดนวัตกรทรู ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร ลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
โดยในปี 2566 ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นรางวัลสำคัญในด้าน “องค์กรนวัตกรรมดีเด่น” ประเภทองค์กรขนาดใหญ่ True Blog จึงได้ชวนทีม True Innovation Center และนวัตกรทรู มาพูดคุยถึงเบื้องหลังการสร้าง “องค์กรแห่งนวัตกรรม” รวมถึงผลงานที่ภูมิใจ และเป้าหมายต่อไปในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างยั่งยืน ก้าวสู่การเป็น Telecom-Tech Company
นวัตกรรมเกิดจากการมองเห็นปัญหา
ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของทรูออนไลน์ อาจไม่เคยรู้ว่า True GIGATEX Intelligent Fiber Router คือนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในองค์กร จากฝีมือของนวัตกรทรู โดยมีจุดเริ่มต้นจากความต้องการพัฒนาคุณภาพของโครงข่ายและบริการ พร้อมไปกับการแก้ปัญหาการผูกขาดจากผู้ผลิตอุปกรณ์
ศศิกานต์ ตั้งชูทวีทรัพย์ Engineering Specialist หนึ่งในนวัตกรและผู้จัดการโครงการพัฒนา Intelligent Fiber Router เล่าว่า
เดิมโครงข่ายของบริการทรูอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมีลักษณะเป็นแบบถูกผูกขาดจากผู้ผลิตอุปกรณ์ กล่าวคือ อุปกรณ์ด้านโครงข่าย(ตัวส่ง) และอุปกรณ์ที่ติดตั้งที่บ้านลูกค้า (ตัวรับ) จำเป็นต้องมาจากผู้ผลิตรายเดียวกันเท่านั้นถึงจะให้บริการลูกค้าได้ ซึ่งเป็นผลทำให้ทรูซึ่งเป็นผู้ให้บริการได้รับผลกระทบในด้านการบริหารจัดการต้นทุน เนื่องจากมีต้นทุนสูงในการปรับปรุงคุณภาพโครงข่ายและบริการ อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายสูงเนื่องจากในโครงข่ายของทรูมีผู้ผลิตหลากหลายมากถึง 6 ราย
ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทีมวิศวกรทรู จึงศึกษาหาแนวทางที่ช่วยลดต้นทุน พร้อมไปกับปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ โดยใช้เทคนิคทางวิศวกรรมที่เรียกว่า “Inter Operability ONT-OLT” (IOP) ซึ่งเป็นการออกแบบพัฒนาให้มีการใช้ภาษากลางที่ทำให้อุปกรณ์ตัวส่งกับตัวรับสัญญาณจากต่างผู้ผลิตกันสามารถทำงานร่วมกันได้
ทีมวิศกรทรูได้ไปศึกษาดูงานกับ China Mobile ผู้ให้บริการในประเทศจีน และนำมาพัฒนาต่อยอดจนสามารถทำให้ตัวรับสัญญาณจากผู้ผลิต 1 รายทำงานร่วมกับอุปกรณ์ส่งจากผู้ผลิต 6 รายของทรูได้ภายในเวลา 2 ปี โดยเป็นการปรับทั้งโครงข่ายเพื่อรองรับเทคนิค IOP ได้
“เมื่อเราใช้เทคนิคแบบ IOP ที่เป็นคอนเซปต์แบบ Any to One ก็ทำให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพ ได้รับบริการที่ดีขึ้น รวมถึงทรูเองก็สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้มากขึ้น ด้านผู้ผลิตก็ต้องพยายามพัฒนาอุปกรณ์ให้มีคุณภาพดีรองรับกับเครือข่ายของเราได้ เมื่อสามารถปรับเปลี่ยนด้วยเทคนิคใหม่นี้ได้ องค์กรก็ลดต้นทุนได้ถึง 5,460 ล้านบาท และมีรายได้เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาทต่อเดือนจากการที่ลูกค้าเพิ่มขึ้น 50,000 รายต่อเดือนอีกด้วย จะเห็นได้ว่า นวัตกรรมทำให้เกิด Cost Saving ได้” ศศิกานต์ สรุป
เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้ลองทำ
ที่ผ่านมานวัตรกรทรูได้คิดค้นนวัตกรรมมากว่า 680 ผลงาน คิดเป็นรายได้และลดต้นทุนกว่า 4,000 ล้านบาท ปัจจัยที่ทำให้เกิดนวัตกรรมภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง เริ่มมาจากวิสัยทัศน์ของผู้นำองค์กรที่มองว่า นวัตกรรมส่งเสริมให้บริษัทขับเคลื่อนต่อไปได้ จึงเปิดกว้างให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ผลงานไปด้วยกัน
“ย้อนกลับไปตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว คุณศุภชัย เจียรวนนท์ มีวิสัยทัศน์ที่เปิดกว้างว่า นวัตกรรมจะเป็นสิ่งที่คิดค้นใหม่ หรือปรับสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็ได้ เพราะต้องการเปิดโอกาสให้พนักงานได้ลองทำ ลองผิดลองถูกได้” วีรศักดิ์ พงษ์ธัญญวิชัย Head of Innovation Center Department กล่าว
การส่งเสริมนวัตกรรมในองค์กรของทรูจึงมีการวางรากฐานไว้อย่างดี โดยมีทีมงานที่ดูแลด้านนวัตกรรมโดยเฉพาะ นั่นคือ ทีม True Innovation Center ที่มีความเชื่อว่า “คน” คือกลไกสำคัญที่สุดในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในองค์กร ทีมนี้จึงทำหน้าที่ช่วยจุดประกาย เป็นที่ปรึกษา สร้างโอกาส ให้พนักงานทุกคนเป็นนวัตกรได้ ผ่านวิธีต่างๆ ดังต่อไปนี้
Innovation Advocacy: สร้างบรรยากาศในการริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมให้เกิดขึ้นในองค์กร ผ่านการให้ความรู้ ทำเวิร์กชอป และเวิร์กชอปสัญจร สร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานทรูทุกฝ่ายงานทั่วประเทศ
Empowerment: สนับสนุนให้พนักงานได้ลองผิดลองถูก โดยคิดริ่เริ่มและพัฒนาเป็นโครงการของตัวเอง โดยทีมจะทำหน้าที่เสมือนพี่เลี้ยงที่ให้คำปรึกษา แนะนำผ่าน Innovation Clinic
Feedback Mechanism: สร้างเครื่องมือที่เรียกว่า Innovation Matrix หรือ I-Score เพื่อวัดความระดับความเป็นนวัตกรรมของชิ้นงาน และหาแนวทางในการพัฒนาให้เกิดเป็นนวัตกรรมที่ใช้ได้จริงต่อไป
Contest: เปิดเวที True Innovation Award ให้พนักงานได้มีโอกาสประกวดผลงาน โดยเปิดกว้างตั้งแต่ไอเดียแรกเริ่มในเรื่องใกล้ตัว ที่เรียกว่าระดับ IDEA SEED (เมล็ดพันธุ์ความคิด) ไปจนถึงการต่อยอดเป็นนวัตกรรมที่ใช้ได้จริง หรือ INNO TREE (สุดยอดนวัตกรรม)
System and Platforms: พัฒนาอินทราเน็ตแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า Innovation Tank เพื่อให้พนักงานในองค์กรเข้ามาค้นหาผลงานที่เคยมีแล้ว และนำมาต่อยอด หรือส่งผลงานของตัวเอง
Innovative Culture: ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร Co-Creation ในการร่วมคิดสร้างสรรค์ ร่วมทำงานกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ พร้อมกับการเปิดกว้างรับฟังความคิดที่หลากหลายจากมุมมองที่แตกต่างกัน
“เมื่อพูดถึงนวัตกรรม เราอยากให้ทุกคนในองค์กรรู้สึกสนุกก่อน อยากให้มีความรู้สึกว่า นวัตกรรมไม่ได้เป็นแค่เรื่องเทคโนโลยี และไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัว ทุกไอเดียที่พนักงานคิดและเสนอมามีคุณค่าทั้งหมด เราจะไม่ไปกำหนดว่า สิ่งนี้ทำได้หรือทำไม่ได้ การเปิดรับไอเดียที่แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่สุดท้ายอาจต่อยอดไปเป็นนวัตกรรมในอนาคตก็ได้” สรรควร สัตยมงคล Innovation Specialist ของทีม True Innovation Center เน้นย้ำ
![True Innovation Center](https://trueblog.dtac.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/01/True-Innovation-Center-2-scaled.jpg)
จาก Close innovation สู่ Open innovation
นอกเหนือจากการสร้างสรรค์วัฒนธรรมภายในองค์กรแล้ว ทีมงาน True Innovation Center ยังได้ประสานความร่วมมือกับภายนอก มีการจัดตั้ง True LAB เพื่อทำงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ 9 แห่ง ร่วมกันทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรม พร้อมไปกับการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษา ผ่านการสนับสนุนทุนวิจัยและถ่ายทอด แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เกิดเป็น Open Innovation ซึ่งนับเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร และเป็นการต่อยอดเป็นนวัตกรรมที่ออกสู่ตลาดได้จริง
“ที่ผ่านมามีนวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกว่า 100 ผลงาน สำหรับตัวอย่างความร่วมมือที่ทำอยู่ตอนนี้ เป็นการพัฒนากล่องกกลูกสุกร ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยใช้ประโยชน์ของ IoT จากทีมทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เพื่อลดอัตราการตายของลูกสุกรในฟาร์มต่างๆ และมุ่งหวังที่จะยกระดับการปศุสัตว์ของไทยให้ดีขึ้น” สรรควร กล่าว
นอกจากนี้ True LAB ยังทำหน้าที่บ่มเพาะนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ให้ก้าวเข้าสู่การเป็นสตาร์ทอัพกว่า 1,000 ทีม และปัจจุบันได้สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในทรู เพื่อพัฒนานวัตรรมที่ใช้งานได้จริงในธุรกิจ พร้อมมุ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศน์สตาร์ทอัพของประเทศไทย
ไม่หยุดพัฒนานวัตกรรมที่มีคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ด้วยหลักการ “คิดค้นนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น” ทรู ไม่เพียงสร้างนวัตกรรมทั้งที่เป็นสินค้าและบริการที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้า แต่ยังสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกมากมาย
ในด้านสังคม มีนวัตกรรมที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบางอย่าง แอปพลิเคชัน Autistic ที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยให้เด็กออทิสติกให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กผ่านการลากเส้นที่ ต้องใช้สมาธิ รวมไปถึงการสื่อสารที่ต้องใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลตัวเอง ท้ายที่สุดคือการนำไปสู่การฝึกอาชีพและมีรายได้อย่างยั่งยืน
“เมื่อก่อนพ่อแม่ของเด็กออทิสติกต้องมีเวลามาสอนให้ลูกทำสิ่งต่างๆ ซ้ำๆ จนจดจำได้ พอมีแอปพลิเคชันนี้ เด็กจะเรียนรู้กิจวัตรต่างๆ เช่น การแปรงฟัน รวมไปถึงการใช้ชีวิต เช่น ฝึกออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ สิ่งที่น่าภูมิใจคือ มีน้องๆ ที่เคยดูแลตัวเองไม่ได้เลย เขาเกิดพัฒนาการที่ดี และบางคนก็ได้มาเป็นบาริสต้าของ True Coffee ด้วย” วีรศักดิ์เล่า
ในด้านของสิ่งแวดล้อม มีหนึ่งนวัตกรรมสำคัญที่ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารมาแก้ปัญหาอย่างตรงจุด นั่นคือ โซลูชันเฝ้าระวังช้างป่าด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Elephant Smart Early Warning) ที่ช่วยลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้สำเร็จด้วยการผสานศักยภาพของเทคโนโลยีสื่อสาร ระบบ IoT เข้าไปช่วยในการทำงานของหน่วยลาดตระเวน กรมอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเจ้าหน้าที่องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ( WWF)
รมมุก เพียจันทร์ Senior Leader Project Development จากหน่วยงานทรูปลูกปัญญา ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการนี้เล่าว่า โซลูชันดังกล่าวประกอบด้วย กล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติพร้อมซิมจากทรู ซึ่งจะแจ้งเตือนพิกัดที่พบช้างแบบเรียลไทม์ไปยังระบบ Cloud โดยเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เฝ้าระวังฯ จะตรวจสอบภาพและพิกัดอีกครั้ง และประสานงานไปยังชุดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการผลักดันช้างผ่านแอปพลิเคชัน Smart Adventure ที่ติดตั้งใน Trunked Mobile ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบ Cloud เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลความถี่และสถิติที่ช้างป่าออกมาได้
“หลังจากที่เราเริ่มติดตั้งภายใน 1 ปี ก็พบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นน้อยกว่า 1% ซึ่งตอนนี้มีการพัฒนาต่อโดยได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี นำระบบ AI มาเข้ามาเสริม ทำให้การตรวจสอบและ Detect ทำได้แม่นยำมากขึ้น” รมมุกกล่าว
![True Innovation Center](https://trueblog.dtac.co.th/blog/wp-content/uploads/2024/01/Innovation-Center-3.png)
องค์กรแห่งนวัตกรรมเกิดขึ้นได้จริง
ที่ผ่านมานวัตกรรมที่มีความหลากหลายของทรู ได้รับรางวัลในระดับประเทศและในเวทีต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในปี 2566 ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ด้าน “องค์กรนวัตกรรมดีเด่น” ประเภทองค์กรขนาดใหญ่ ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างองค์กรแห่งนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องจริงจัง
“รางวัลนี้มีการประเมินอย่างรอบด้าน ตั้งแต่วิสัยทัศน์ผู้นำ ผลงานที่เกิดจากพนักงานในองค์กร ระบบการจัดการนวัตกรรม รวมไปถึงรางวัลและการเชิดชูผลงานจากเวทีต่างๆ ทั้งในไทยและนานาชาติ ซึ่งเมื่อรวบรวมย้อนหลังไป 3 ปี ทรูมีครบทุกองค์ประกอบ ทั้งยังมีการจัดการในเรื่องการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา เรียกได้ว่าครบวงจรของการจัดการนวัตกรรมอย่างแท้จริง” วีรศักดิ์เน้นย้ำ
ด้วยเป้าหมายภายในปี 2573 ที่ต้องการสร้างนวัตกรทรูให้ถึง 5,000 คน โดยจัดให้มีทุนวิจัยพัฒนาเป็น 3% ของงบใช้จ่าย พร้อมไปกับการเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการให้มีสัดส่วนต่อรายได้รวมบริษัท 15% รวมถึงการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา 200 ผลงาน ท้ายที่สุดแล้ว “คน” คือปัจจัยสำคัญที่สุด ที่จะทำให้องค์กรเดินหน้าให้ถึงเป้าหมาย รวมถึงก้าวสู่การเป็น Telecom Tech Company อย่างแท้จริง
“ถ้ามีเครื่องมือล้ำสมัยทุกอย่าง แต่คนของเราไม่ใช้หรือใช้ไม่เป็น ก็ไม่อาจสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ เราจึงให้ความสำคัญกับ ‘คน’ เป็นอันดับแรก มุ่งสร้างคนให้เป็นนวัตกร สร้างแรงบันดาลใจ แล้วนวัตกรรมดีๆ จะเกิดขึ้นได้จริง” วีรศักดิ์ ทิ้งท้าย
ชมคลิป เมื่อ “ความขี้เกียจ” ทำให้เกิด “นวัตกรรม”